วันพุธที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2556

บันทึกการเรียนการสอน : วันศุกร์ที่ 3 พฤศจิกายน 2555

- เนื่องจากวันนี้เป็นการเรียนครั้งแรกในรายวิชานี้
อาจารย์จึงทำความคึ้น้คยกับนักศึกษาพร้อมกับอธิบายถึงขอบเขตของรายวิชานี้
โดยการแตกออกมาเป็นผังมโนทัศน์ ซึ่งสามารถเข้าใจได้ง่ายกว่า
- อาจารย์พูดถึงทฤษฎีต่างๆของนักวิชาการที่เกี่ยวของกับคณิตศาสตร์ เช่น
ทฤษฎีของเพียเจต์ บรูเนอร์ เป็นต้น
-นักศึกษาได้ทำผังมโนทัศน์เกี่ยวกับรายวิชานี้ ตามความเข้าใจของตนเอง
ทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย

      คณิตศาสตร์เป็นความสามารถด้านสติปัญญา ดังนั้นการพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัยได้อย่างเต็มศักยภาพสูงสุดนั้น จึงยึดทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาเป็นแนวทางสู่การปฏิบัติ ดังนี้  เพียเจต์  (ชลลดาวัลย์ ตันมงคล. 2538 : 10, อ้างอิงมาจาก Piget.1962 : 74) สติปัญญาเป็นความสามารถในการคิด ความสามารถในการวางแผนและปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อม ความสามารถดังกล่าวจะพัฒนาความคิดความเข้าใจในระดับง่าย ๆ ในวัยเด็กไปสู่ระดับที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น ในวัยผู้ใหญ่คิมเบิล (อารี เพชรผุด. 2528 : 203 - 204 : อ้างอิงมาจาก Kimble.1961) กล่าวว่า สติปัญญาคือผลงานความสามารถ  5  อย่าง  คือ
1. ความสามารถในการใช้กระบวนการที่เกี่ยวกับสัญลักษณ์ (Symbol)
2. ความสามารถในการคิดหาเหตุผล (Reasoning Thinking)
3. ความสามารถในการวางเป้าหมายในการกระทำ (Goal)
4. ความสามารถในการปฏิบัติอย่างได้ผลต่อสิ่งแวดล้อม
5. ความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมและปรับสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสมกับตนเอง  อารี รังสินันท์              ( 2530 : 34 )  ได้ให้ความหมายของสติปัญญาว่า หมายถึงความสามารถทางสมองของบุคคลในการเรียนรู้ การคิดหาเหตุผล การตัดสินใจ การแก้ปัญหา ตลอดจนการนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ การปรับปรุงตัวเองต่อสิ่งแวดล้อม สถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ และสามารถดำรงตนในสังคมได้อย่างเป็นสุขโกวิท ประวาลพฤกษ์ และคนอื่น ๆ  (ม.ป.ป. : 77)  กล่าวว่า สติปัญญาคือความสามารถทางสมองทางด้านการรับรู้ การจำ การเข้าใจ การคิดอย่างมีเหตุผล การเข้าใจสิ่งซับซ้อน เข้าใจนามธรรม สามารถแก้ปัญหาที่ยาก ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากพันธุกรรมที่เจริญเติบโตตามวัย แต่อีกส่วนหนึ่งสามารถส่งเสริมได้จากการเรียนรู้และฝึกหัดจากสิ่งแวดล้อมสรุปได้ว่า สติปัญญา หมายถึง ความสามารถทางสมองของบุคคลที่แสดงออกเกี่ยวกับการคิด  ความจำ  การแก้ปัญหา  ความมีเหตุผล ความสัมพันธ์  ภาษา  ซึ่งเกี่ยวข้องกับความสามารถทางคณิตศาสตร์ของเด็ก อีกทั้ง ความสามารถในการปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพความสามารถทางสติปัญญารวมถึงความสามารถทางคณิตศาสตร์ได้มาจากพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ ตามวัยของเด็ก




ทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย

      คณิตศาสตร์เป็นความสามารถด้านสติปัญญา ดังนั้นการพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัยได้อย่างเต็มศักยภาพสูงสุดนั้น จึงยึดทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาเป็นแนวทางสู่การปฏิบัติ ดังนี้  เพียเจต์  (ชลลดาวัลย์ ตันมงคล. 2538 : 10, อ้างอิงมาจาก Piget.1962 : 74) สติปัญญาเป็นความสามารถในการคิด ความสามารถในการวางแผนและปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อม ความสามารถดังกล่าวจะพัฒนาความคิดความเข้าใจในระดับง่าย ๆ ในวัยเด็กไปสู่ระดับที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น ในวัยผู้ใหญ่คิมเบิล (อารี เพชรผุด. 2528 : 203 - 204 : อ้างอิงมาจาก Kimble.1961) กล่าวว่า สติปัญญาคือผลงานความสามารถ  5  อย่าง  คือ
1. ความสามารถในการใช้กระบวนการที่เกี่ยวกับสัญลักษณ์ (Symbol)
2. ความสามารถในการคิดหาเหตุผล (Reasoning Thinking)
3. ความสามารถในการวางเป้าหมายในการกระทำ (Goal)
4. ความสามารถในการปฏิบัติอย่างได้ผลต่อสิ่งแวดล้อม
5. ความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมและปรับสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสมกับตนเอง  อารี รังสินันท์              ( 2530 : 34 )  ได้ให้ความหมายของสติปัญญาว่า หมายถึงความสามารถทางสมองของบุคคลในการเรียนรู้ การคิดหาเหตุผล การตัดสินใจ การแก้ปัญหา ตลอดจนการนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ การปรับปรุงตัวเองต่อสิ่งแวดล้อม สถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ และสามารถดำรงตนในสังคมได้อย่างเป็นสุขโกวิท ประวาลพฤกษ์ และคนอื่น ๆ  (ม.ป.ป. : 77)  กล่าวว่า สติปัญญาคือความสามารถทางสมองทางด้านการรับรู้ การจำ การเข้าใจ การคิดอย่างมีเหตุผล การเข้าใจสิ่งซับซ้อน เข้าใจนามธรรม สามารถแก้ปัญหาที่ยาก ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากพันธุกรรมที่เจริญเติบโตตามวัย แต่อีกส่วนหนึ่งสามารถส่งเสริมได้จากการเรียนรู้และฝึกหัดจากสิ่งแวดล้อมสรุปได้ว่า สติปัญญา หมายถึง ความสามารถทางสมองของบุคคลที่แสดงออกเกี่ยวกับการคิด  ความจำ  การแก้ปัญหา  ความมีเหตุผล ความสัมพันธ์  ภาษา  ซึ่งเกี่ยวข้องกับความสามารถทางคณิตศาสตร์ของเด็ก อีกทั้ง ความสามารถในการปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพความสามารถทางสติปัญญารวมถึงความสามารถทางคณิตศาสตร์ได้มาจากพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ ตามวัยของเด็ก



ทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย

      คณิตศาสตร์เป็นความสามารถด้านสติปัญญา ดังนั้นการพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัยได้อย่างเต็มศักยภาพสูงสุดนั้น จึงยึดทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาเป็นแนวทางสู่การปฏิบัติ ดังนี้  เพียเจต์  (ชลลดาวัลย์ ตันมงคล. 2538 : 10, อ้างอิงมาจาก Piget.1962 : 74) สติปัญญาเป็นความสามารถในการคิด ความสามารถในการวางแผนและปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อม ความสามารถดังกล่าวจะพัฒนาความคิดความเข้าใจในระดับง่าย ๆ ในวัยเด็กไปสู่ระดับที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น ในวัยผู้ใหญ่คิมเบิล (อารี เพชรผุด. 2528 : 203 - 204 : อ้างอิงมาจาก Kimble.1961) กล่าวว่า สติปัญญาคือผลงานความสามารถ  5  อย่าง  คือ
1. ความสามารถในการใช้กระบวนการที่เกี่ยวกับสัญลักษณ์ (Symbol)
2. ความสามารถในการคิดหาเหตุผล (Reasoning Thinking)
3. ความสามารถในการวางเป้าหมายในการกระทำ (Goal)
4. ความสามารถในการปฏิบัติอย่างได้ผลต่อสิ่งแวดล้อม
5. ความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมและปรับสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสมกับตนเอง  อารี รังสินันท์              ( 2530 : 34 )  ได้ให้ความหมายของสติปัญญาว่า หมายถึงความสามารถทางสมองของบุคคลในการเรียนรู้ การคิดหาเหตุผล การตัดสินใจ การแก้ปัญหา ตลอดจนการนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ การปรับปรุงตัวเองต่อสิ่งแวดล้อม สถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ และสามารถดำรงตนในสังคมได้อย่างเป็นสุขโกวิท ประวาลพฤกษ์ และคนอื่น ๆ  (ม.ป.ป. : 77)  กล่าวว่า สติปัญญาคือความสามารถทางสมองทางด้านการรับรู้ การจำ การเข้าใจ การคิดอย่างมีเหตุผล การเข้าใจสิ่งซับซ้อน เข้าใจนามธรรม สามารถแก้ปัญหาที่ยาก ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากพันธุกรรมที่เจริญเติบโตตามวัย แต่อีกส่วนหนึ่งสามารถส่งเสริมได้จากการเรียนรู้และฝึกหัดจากสิ่งแวดล้อมสรุปได้ว่า สติปัญญา หมายถึง ความสามารถทางสมองของบุคคลที่แสดงออกเกี่ยวกับการคิด  ความจำ  การแก้ปัญหา  ความมีเหตุผล ความสัมพันธ์  ภาษา  ซึ่งเกี่ยวข้องกับความสามารถทางคณิตศาสตร์ของเด็ก อีกทั้ง ความสามารถในการปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพความสามารถทางสติปัญญารวมถึงความสามารถทางคณิตศาสตร์ได้มาจากพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ ตามวัยของเด็ก


คิมเบิล
กล่าวว่า สติปัญญาคือผลงานความสามารถ  5  อย่าง  คือ
1. ความสามารถในการใช้กระบวนการที่เกี่ยวกับสัญลักษณ์ (Symbol)
2. ความสามารถในการคิดหาเหตุผล (Reasoning Thinking)
3. ความสามารถในการวางเป้าหมายในการกระทำ (Goal)
4. ความสามารถในการปฏิบัติอย่างได้ผลต่อสิ่งแวดล้อม
5. ความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมและปรับสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสมกับตนเองอารี รังสินันท์   ( 2530 : 34 )  ได้ให้ความหมายของสติปัญญาว่า หมายถึงความสามารถทางสมองของบุคคลในการเรียนรู้ การคิดหาเหตุผล การตัดสินใจ การแก้ปัญหา ตลอดจนการนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ การปรับปรุงตัวเองต่อสิ่งแวดล้อม สถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ และสามารถดำรงตนในสังคมได้อย่างเป็นสุขโกวิท ประวาลพฤกษ์ และคนอื่น ๆ  (ม.ป.ป. : 77)  กล่าวว่า สติปัญญาคือความสามารถทางสมองทางด้านการรับรู้ การจำ การเข้าใจ การคิดอย่างมีเหตุผล การเข้าใจสิ่งซับซ้อน เข้าใจนามธรรม สามารถแก้ปัญหาที่ยาก ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากพันธุกรรมที่เจริญเติบโตตามวัย แต่อีกส่วนหนึ่งสามารถส่งเสริมได้จากการเรียนรู้และฝึกหัดจากสิ่งแวดล้อมสรุปได้ว่า สติปัญญา หมายถึง ความสามารถทางสมองของบุคคลที่แสดงออกเกี่ยวกับการคิด  ความจำ  การแก้ปัญหา  ความมีเหตุผล ความสัมพันธ์  ภาษา  ซึ่งเกี่ยวข้องกับความสามารถทางคณิตศาสตร์ของเด็ก อีกทั้ง ความสามารถในการปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพความสามารถทางสติปัญญารวมถึงความสามารถทางคณิตศาสตร์ได้มาจากพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ ตามวัยของเด็ก

บันทึกการเรียนการสอน : วันศุกร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2555

- อาจารย์มอบหมายงานให้ดังนี้
1. หาคำว่า คณิตศาสตร์ 3 ภาษา
2. ค้นคว้าจากหนังสือ ถึงความหมายของคณิตศาสตร์ พร้อม บันทึกรายละเอียดของหนังสือมาด้วย
3. ค้นคว้าเรื่องจุดหมาย เป้าหมาย วัตถุประสงค์ ของการเรียนคณิตศาสต์
4. แผนการจัดการสอนคณิตศาสตร์
5. ขอบเขตของคณิตศาสต์มีอะไรบ้าง
จุดมุ่งหมายของการสอนคณิตศาสตร์ในระดับปฐมวัยศึกษาจึงควรมีดังนี้
1. เพื่อให้เด็กมีความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับคณิตศาสตร์ เช่น รู้จักคำศัพท์ และสัญลักษณ์ ทางคณิตศาสตร์ขั้นต้น ฯลฯ
2. เพื่อพัฒนามโนภาพเกี่ยวกับคณิตศาสตร์ เช่น การบวก หรือการเพิ่ม การลดหรือการลบ ฯลฯ
3. เพื่อให้เด็กรู้จักและใช้กระบวนการในการหาคำตอบ เช่น การจดบันทึก การชั่งน้ำหนัก ฯลฯ
4. เพื่อให้เด็กฝึกฝนทักษะคณิตศาสตร์พื้นฐาน เช่น การนับ การวัด การจับคู่ การจัดประเภท การเปรียบเทียบ การลำดับ ฯลฯ
5. เพื่อส่งเสริมให้เด็กมีความรู้ ความเข้าใจ ความอยากรู้ และอยากค้นคว้าเพิ่มเติม
6. เพื่อส่งเสริมให้เด็กค้นคว้าหาคำตอบด้วยตนเอง




วันอังคารที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556

บันทึกการเรียนการสอน : วันศุกร์ที่ 17 พฤศจิกายน 2555

- จากสัปกาห์ที่แล้วที่อาจารย์ให้นักศึกษาหาหนังสือคณิตศาสตร์
ที่คิดว่าสามารถนกความรู้ในหนังสือมาประยุกต์ใช้กับการเรียนการสอนได้
- หลังจากนั้นให้แบ่งเป็นกลุ่มเพื่อทำกิจกรรมโดย ให้นำหนังสือ ที่มี ความหมาน จุดมุ่งหมาย หลักการ ทางคณิตศาสต์ มาเขียนรวบรวมเป็ยกลุ่ม เพื่อกาข้อความที่ดีที่สุด หลังจากนั้นออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียน
- หลังจากนั้นอาจารน์ได้สรุปเกี่ยวกับ หลักการสอนคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย
บุญทัน อยู่ชมบุญ (2529 : 24-25) ได้กล่าวถึงหลักการสอนคณิตศาสตร์ ดังนี้
1. สอนโดยคำนึงถึงความพร้อมของนักเรียน คือ พร้อมในด้านร่างกาย อารมณ์ สติ
ปัญญา และพร้อมในแง่ความรู้พื้นฐานที่จะมาต่อเนื่องกับความรู้ใหม่ โดยครูต้องมีการทบทวนความรู้เดิมก่อน เพื่อให้ประสบการณ์เดิมกับประสบการณ์ใหม่ต่อเนื่องกัน จะช่วยให้นักเรียนเกิดความเข้าใจและมองเห็นความสัมพันธ์ของสิ่งที่เรียนได้ดี
2. การจัดกิจกรรมการสอนต้องให้เหมาะสมกับวัย ความต้องการ ความสนใจ และ
ความสามารถของนักเรียนเพื่อมิให้เกิดปัญหาตามมาภายหลัง
3. ควรคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล โดยเฉพาะวิชาคณิตศาสตร์เป็นวิชาที่ครู
จำเป็นต้องคำนึงถึงให้มากกว่าวิชาอื่น ๆ ในแง่ความสามารถทางสติปัญญา
4. ควรเตรียมความพร้อมทางคณิตศาสตร์ ให้นักเรียนเป็นรายบุคคล หรือรายกลุ่มก่อน
เพื่อเป็นพื้นฐานในการเรียนรู้ จะช่วยให้นักเรียนมีความพร้อมตามวัย และความสามารถของแต่ละคน
5. วิชาคณิตศาสตร์เป็นวิชาที่มีระบบที่จะต้องเรียนไปตามลำดับขั้น การสอนเพื่อสร้าง
ความคิด ความเข้าใจ ในระยะเริ่มแรกจะต้องเป็นประสบการณ์ที่ง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน สิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องและทำให้เกิดความสับสน จะต้องไม่นำเข้ามาในกระบวนการเรียนการสอน การสอนจะเป็นไปตามลำดับขั้นตอนที่วางไว้
6. การสอนแต่ละครั้งจะต้องมีจุดประสงค์ที่แน่นอนว่า จัดกิจกรรมเพื่อสนองจุดประสงค์
อะไร
7. เวลาที่ใช้สอน ควรใช้ระยะเวลาพอสมควรไม่นานจนเกินไป
8. ครูควรจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่มีการยืดหยุ่นให้นักเรียนได้มีโอกาสเลือกทำ
กิจกรรมได้ตามความพอใจ ตามความถนัดของตน และให้อิสระในการทำงานแก่นักเรียน สิ่งสำคัญประการหนึ่ง คือ การปลูกฝังเจตคติที่ดีแก่นักเรียนในการเรียนคณิตศาสตร์ ถ้าเกิดมีขึ้น จะช่วยให้ นักเรียนพอใจในการเรียนวิชานี้ เห็นประโยชน์และคุณค่าย่อมจะสนใจมากขึ้น
9. การสอนที่ดีควรเปิดโอกาสให้นักเรียนมีการวางแผนร่วมกับครู เพราะจะช่วยให้ครู
เกิดความมั่นใจในการสอน และเป็นไปตามความพอใจของนักเรียน
10. การสอนคณิตศาสตร์ควรให้นักเรียนมีโอกาสทำงานร่วมกันหรือมีส่วนร่วมเป็นการ
ค้นคว้า สรุปกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ด้วยตนเองร่วมกับเพื่อน ๆ
11. การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนควรสนุกสนานบันเทิงไปพร้อมกับการเรียนรู้ด้วย
จึงจะสร้างบรรยากาศที่น่าติดตามให้แก่นักเรียน
12. นักเรียนจะเรียนได้ดีเมื่อเริ่มเรียนโดยครูใช้ของจริง อุปกรณ์ ซึ่งเป็นรูปธรรม นำไปสู่
นามธรรม ตามลำดับ จะช่วยให้นักเรียนเรียนรู้ด้วยความเข้าใจ มิใช่จำดังเช่นการสอนในอดีตที่ผ่านมา ทำให้เห็นว่าวิชาคณิตศาสตร์เป็นวิชาที่ง่ายต่อการเรียนรู้
13. การประเมินผลการเรียนการสอนเป็นกระบวนการต่อเนื่องและเป็นส่วนหนึ่งของ
การเรียนการสอน ครูอาจใช้วิธีการสังเกต การตรวจแบบฝึกหัด การสอบถามเป็นเครื่องมือในการ วัดผล จะช่วยให้ครูทราบข้อบกพร่องของนักเรียนและการสอนของตน
14. ไม่ควรจำกัดวิธีคำนวณหาคำตอบของนักเรียน แต่ควรแนะนำวิธีคิดที่รวดเร็ว และ
แม่นยำภายหลัง
15. ฝึกให้นักเรียนรู้จักตรวจเช็คคำตอบด้วยตัวเอง
บุญทัน อยู่ชมบุญ (2529 : 24-25) ได้กล่าวถึงหลักการสอนคณิตศาสตร์ ดังนี้
1. สอนโดยคำนึงถึงความพร้อมของนักเรียน คือ พร้อมในด้านร่างกาย อารมณ์ สติ
ปัญญา และพร้อมในแง่ความรู้พื้นฐานที่จะมาต่อเนื่องกับความรู้ใหม่ โดยครูต้องมีการทบทวนความรู้เดิมก่อน เพื่อให้ประสบการณ์เดิมกับประสบการณ์ใหม่ต่อเนื่องกัน จะช่วยให้นักเรียนเกิดความเข้าใจและมองเห็นความสัมพันธ์ของสิ่งที่เรียนได้ดี
2. การจัดกิจกรรมการสอนต้องให้เหมาะสมกับวัย ความต้องการ ความสนใจ และ
ความสามารถของนักเรียนเพื่อมิให้เกิดปัญหาตามมาภายหลัง
3. ควรคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล โดยเฉพาะวิชาคณิตศาสตร์เป็นวิชาที่ครู
จำเป็นต้องคำนึงถึงให้มากกว่าวิชาอื่น ๆ ในแง่ความสามารถทางสติปัญญา
4. ควรเตรียมความพร้อมทางคณิตศาสตร์ ให้นักเรียนเป็นรายบุคคล หรือรายกลุ่มก่อน
เพื่อเป็นพื้นฐานในการเรียนรู้ จะช่วยให้นักเรียนมีความพร้อมตามวัย และความสามารถของแต่ละคน
5. วิชาคณิตศาสตร์เป็นวิชาที่มีระบบที่จะต้องเรียนไปตามลำดับขั้น การสอนเพื่อสร้าง
ความคิด ความเข้าใจ ในระยะเริ่มแรกจะต้องเป็นประสบการณ์ที่ง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน สิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องและทำให้เกิดความสับสน จะต้องไม่นำเข้ามาในกระบวนการเรียนการสอน การสอนจะเป็นไปตามลำดับขั้นตอนที่วางไว้
6. การสอนแต่ละครั้งจะต้องมีจุดประสงค์ที่แน่นอนว่า จัดกิจกรรมเพื่อสนองจุดประสงค์
อะไร
7. เวลาที่ใช้สอน ควรใช้ระยะเวลาพอสมควรไม่นานจนเกินไป
8. ครูควรจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่มีการยืดหยุ่นให้นักเรียนได้มีโอกาสเลือกทำ
กิจกรรมได้ตามความพอใจ ตามความถนัดของตน และให้อิสระในการทำงานแก่นักเรียน สิ่งสำคัญประการหนึ่ง คือ การปลูกฝังเจตคติที่ดีแก่นักเรียนในการเรียนคณิตศาสตร์ ถ้าเกิดมีขึ้น จะช่วยให้ นักเรียนพอใจในการเรียนวิชานี้ เห็นประโยชน์และคุณค่าย่อมจะสนใจมากขึ้น
9. การสอนที่ดีควรเปิดโอกาสให้นักเรียนมีการวางแผนร่วมกับครู เพราะจะช่วยให้ครู
เกิดความมั่นใจในการสอน และเป็นไปตามความพอใจของนักเรียน
10. การสอนคณิตศาสตร์ควรให้นักเรียนมีโอกาสทำงานร่วมกันหรือมีส่วนร่วมเป็นการ
ค้นคว้า สรุปกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ด้วยตนเองร่วมกับเพื่อน ๆ
11. การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนควรสนุกสนานบันเทิงไปพร้อมกับการเรียนรู้ด้วย
จึงจะสร้างบรรยากาศที่น่าติดตามให้แก่นักเรียน
12. นักเรียนจะเรียนได้ดีเมื่อเริ่มเรียนโดยครูใช้ของจริง อุปกรณ์ ซึ่งเป็นรูปธรรม นำไปสู่
นามธรรม ตามลำดับ จะช่วยให้นักเรียนเรียนรู้ด้วยความเข้าใจ มิใช่จำดังเช่นการสอนในอดีตที่ผ่านมา ทำให้เห็นว่าวิชาคณิตศาสตร์เป็นวิชาที่ง่ายต่อการเรียนรู้
13. การประเมินผลการเรียนการสอนเป็นกระบวนการต่อเนื่องและเป็นส่วนหนึ่งของ
การเรียนการสอน ครูอาจใช้วิธีการสังเกต การตรวจแบบฝึกหัด การสอบถามเป็นเครื่องมือในการ วัดผล จะช่วยให้ครูทราบข้อบกพร่องของนักเรียนและการสอนของตน
14. ไม่ควรจำกัดวิธีคำนวณหาคำตอบของนักเรียน แต่ควรแนะนำวิธีคิดที่รวดเร็ว และ
แม่นยำภายหลัง
15. ฝึกให้นักเรียนรู้จักตรวจเช็คคำตอบด้วยตัวเอง

บันทึกการเรียนการสอน : วันศุกร์ที่ 30 พฤศจิกายน 2555

-  อาจารย์ทำการเช็คชื่อนักศึกษาที่มาเรียนในวันนี้เป็นอันดับแรก 

-  อาจารย์ได้พูดถึงขอบข่ายของคณิตศาสตร์  โดย ( นิตยา  ประพฤติกิจ )  ว่ามีอะไรบ้างโดยบอกความหมาย และยกตัวอย่างให้เห็นภาพอย่างละเอียด เพื่อให้นักศึกษาเข้าใจมากยิ่งขึ้น
เยาวพา เดชะคุปต์  ได้กล่าวว่า
1. การจัดกลุ่ม 
2. การฝึกหัด 
3. ระบบจำนวน
4. ความสัมพันธ์ระหว่างเซตต่าง ๆ 
5. คุณสมบุติของคณิตศาสตร์ 
6. ลำดับสำคัญ และ ประโยชน์ของคณิตสาสตร์ 
7. การวัด (เพื่อหาปริมาตร) 
8. รูปทรงเรขาคณิต (สิ้งของที่มีมิติต่าง ๆ จากสิ่งรอบ ๆ ตัว ) 
9. สถิติและกร๊าฟ  (การนำเสนอข้อมูล การทำแผนภูมิ )
นิตยา  ประพฤติกิจ 
1. การนับ 
2. ตัวเลข 
3. การจับคู่ 
4. การจัดประเภท
5. การเปรียบเทียบ
6. การจัดลำดับ
7. รูปทรงและเนื้อที่
8. การวัด
9 .เซต
10.เศษส่วน
11.การทำตามแบบหรือลวดลาย
12.การอนุรักษ์

บันทึกการเรียนการสอน : วันศุกร์ที่ 7 ธันวาคม 2555

- อาจารย์ให้นักศึกษานำกล่องที่ได้สั่งมาคนละ 1 กล่อง หลังจากนั้นให้นักศึกษาแบ่งกลุ่มออกเป็น 3 กลุ่ม
- นักศึกษาแต่ละกลุ่มนำกล่องที่เตรียมมาคนละ 1 กล่อง มาประดิษฐ์เป็นสิ่งต่างๆตามจินตนาการ
ซึ่งแต่ละกลุ่มจะมีข้อบังคับที่แตกต่างกันออกไป
กลุ่มที่1 ทำงานภายใต้เงื่อนไขอย่างอิสระ
กลุ่มที่2 ทำงานโดยก้ามพูดคุยกัน
กลุ่มที่3 ทำงานโดยสามารถปรึกษากันก่อนเริ่มงานได้
ซึ่งตอนท้ายได้สรุปว่าการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมประสบการณ์ให้เด็กนั้นควรเปิดโอกาสให้เด็กได้ทำอย่างอิสระ

บันทึกการเรียนการสอน : วันศุกร์ที่ 14 ธันวาคม 2555

- อาจารย์สอนเรื่อง มาตราฐานทางคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยว่าประกอบด้วยอะไรบ้าง
ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรรู้ เพื่อที่จะนำไปประยุกต์ใช้ในอนาคตได้
- คำว่า "คณิตศาสตร์" (คำอ่าน: คะ-นิด-ตะ-สาด) มาจากคำว่า คณิต (การนับ หรือ คำนวณ) และ ศาสตร์ (ความรู้ หรือ การศึกษา) ซึ่งรวมกันมีความหมายโดยทั่วไปว่า การศึกษาเกี่ยวกับการคำนวณ หรือ วิชาที่เกี่ยวกับการคำนวณ. คำนี้ตรงกับคำภาษาอังกฤษว่า mathematics มาจากคำภาษากรีก (máthema) แปลว่า "วิทยาศาสตร์, ความรู้, และการเรียน" และคำว่า (mathematikós) แปลว่า "รักที่จะเรียนรู้". ในอเมริกาเหนือนิยมย่อ mathematics ว่า math ส่วนประเทศอื่นๆ ที่ใช้ภาษาอังกฤษนิยมย่อว่า maths

บันทึกการเรียนการสอน : วันศุกร์ที่ 21 ธันวาคม 2555

ไม่มีการเรียนการสอน เนื่องจากอยู่ในช่วงสอบกลางภาเรียน

บันทึกการเรียนการสอน : วันศุกร์ที่ 28 ธันวาคม 2555

ไม่มีการเรียนการสอนเนื่องจากเป็นช่วงวันหยถดเทศกาลปีใหม่

บันทึกการเรียนการสอน : วันศุกร์ที่ 4 มกราคม 2556

- นักศึกษาแต่ละคนเตรียมพร้อมอุปกรณ์ในการทำสื่อคณิตศาสตร์ มาทำที่มหาวิทยาลัย
โดยแต่ละกลุ่มได้รับมอบหมายงานที่แตกต่างกันออกไป
ซึ่งการทำงานกลุ่มนั้นเนื่องจากใช้พื้นที่มาก อาจารย์จึงให้นักศึกษาแต่ละกลุ่ม
ลงมาที่ใต้ตึกคณะศึกษาศาสตร์ และแยกย้ายกันลงมือทำ โดยอาจารย์จะเป็นผู้
ตอยให้คำชี้แนะ โดยจะเดินวนไปตามกลุ่ม ซึ่งนักศึกษาสามารถสอบถามได้

บันทึกการเรียนการสอน : วันศุกร์ที่ 11 มกราคม 2556

- อาจารย์ตรวจสอบผลงานที่นักศึกษาได้ทำมา ในเรื่องของสือการสอน คณิตศาสตร์
ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ซึ่งกลุ่มของข้าพเจ้าได้รับมอบหมายงานในการ ทำบอร์ดสำหรับ
การเก็บสถิติในรูปของกราฟแผนภูมิแท่ง
- อาจารย์บอกถึงประโยชน์ และการนำสื่อที่ผลิตมาใช้บูรณาการร่วมกับเนื้อหาสารพที่มีอยู่
- อาจารย์ตรวจสอบงาน และให้บ้อเสนอแนะเพื่อให้นักศึกษานำกลับไปปรับปรุง
ให้ผลงานออกมาดีขึ้น

บันทึกการเรียนการสอน : วันศุกร์ที่ 18กราคม 2556

- อาจารย์ได้พูดถึงงานที่อาจารย์สั่งให้ทำว่าวันนี้มีใครเอามาบ้างไหม อาจารย์จะดูให้ว่าต้องปรับปรุงแก้ไขอย่างไร วึ่งกลุ่มของพวกเรานะ MAP มาให้อาจารย์ดูว่าคิดถูกต้องไหม หรือควรมีอะไรเพิ่มเติมอีก ซึ่งอาจารย์บอกว่าผิด เพราะเราทำ MAP แบบที่เคยทำทั่ว ๆ ไป ซึ่งสิ่งที่ถูกต้อง คือ ต้องทำตามแบบ MAP ที่อาจารย์ได้พูดไว้ เพื่อความเข้าใจมากขึ้น แตกแขนงแยกออกไปได้มากขึ้น
ตัวเลขติดแม่เหล็ก

บันทึกการเรียนการสอน : วันศุกร์ที่ 25 มกราคม 2556

- นักศึกษานำผลงานที่เป็น ผังมโนทัศน์ มาส่งให้อาจารย์ตรวจสอนเพื่อแก้ไขให้ถูกต้องตามหลัก
และสอนเรื่องการเขียนผังมโนทัศน์ที่ถูกต้อง
- อาจารย์ยกตัวอย่างการเขียนแผนการจัดประสบการ์การสอนเรื่องคณิตศาสตร์ เรื่องของไข่ ซึ่งสามารบูรณาการตามมาตราฐาน คณิตศาสตร์ได้ดังนี้
วันที่ 1 เรื่อง การนับจำนวน
วันที่ 2 เรื่อง รูปร่าง ลักษณะ
วันที่ 3 เรื่อง ฃนิด
วันที่ 4 เรื่อง ประโยชน์
วันที่ 5 เรื่องการนำไข่มาทำอาหาร
- ความรู้ที่ได้รับในวันนี้ ได้รู้ถึงหลักการทำผังมโนมัศน์ที่ถูกต้อง
- ได้ความรู้ในเรื่องการจัดทำแผนกรจัดประสบการณ์ที่ถูกต้อง

บันทึกการเรียนการสอน : วันศุกร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2556

- ในวันนี้อาจารย์ติดภารกิจ จึงไม่มีการเรียนการสอน
-อาจารย์ไมอยหมายงานไว้เป็นกลุ่มโดยให้เสนอแผนการจัดประสบการณ์ทางคณิตศาสตร์ กลุ่มละ 1 อย่าง โดยสิ่งนั้นต้องสามารถบูรณาการกับคณิตศาสตร์ได้

วันจันทร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2556

บันทึกการเรียนการสอน : วันศุกร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2556

- นักศึกษานำเสนอแผนการสอนสาระการเรียนรู้รายวิชาคณิตศาสตร์ ซึ่งกลุ้มของข้าพเจ้าได้นพเสนอในหัวข้อ สับปะรด
- เพื่อนแต่ละกลุ่มนำเสนอแพนงานให้อาจารย์เสนอแนะและปรับปรุงแก้ไข ซึ่งในวันนี้นำเสนอได้เพียง 2 กลุ่ม เยื่องจากเวลาไม่พียงพอ
- อาจารย์เสนอแนพข้อปรับปรุงจากแพนการสอนที่เพื่อนๆทำโดน เสนอแนะเป็นตัวอย่างแก่เพื่อนๆที่ยังไม่ได้นำเสนอผลงาน

วันศุกร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

บันทึกการเรียนการสอน : วันศุกร์ที่ 15 กุมภาพันธุ์ 2556

- อาจารย์ให้นักศึกษานำเสนอแผนการจัดประสบการณ์สำหรับเด็กปฐมวันที่เกี่ยวข้องกับวิชาคณิตศาสตร์โดยแต่ละกลุ่มจะได้รับหัวข้อที่แตกต่างกันออกไป
- อาจารย์แนะนำการจัดทำแผนการจัดประสบดารณ์ทางคณิตศาสตร์ที่แต่ละกลุ่มออกมานำเสนอถึงข้อดีและข้อเสียเพื่อให้นักศึกษานำกลับไปปรับปรุงแก้ไข
- อาจารย์เปิดโอกาสให้นักศึกษาสอบถามเกี่ยวกับเนื่อหาการเรียนการสอนที่ยังไม่เข้าใจ พร้อมกับให้นักศึกษาไปอ่านมาตราฐานทางคณิตศาสตร์มาเพื่อเตรียมตัวสอยปลายภาค วันพุธที่ 20 ก.พ. 2556
ความรู้เพิ่มเติม
- มาตราฐานทางคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย
สาระที่ 1 จำนวนและการดำเนินการ
มาตราฐาน ค.ป. 1.1 เข้าใจถึงความหลากหลายของการแสดงจำนวนและการใช้จำนวนในชีวิตจริง
สาระที่ 2 การวัด
มาตราฐาน ค.ป. 2.1 เช้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับการวัดความยาว น้ำหนัก ปริมาตร เงิน และเวลา
สาระที่ 3 เรขาคณิต
มาตราฐาน ค.ป. 3.1 รู้จักใช้คำในการบองทิศทาง ตำแกน่งและระยะทาง
มาตราฐาน ค.ป. 3.2 รู้จักจำแนกรูปเรขาคณิตและเข้าใจการเปลี่ยนแปลงรูปเรขาคณิตที่เกิดจากการจีดการกระทำ
สาระที่ 4 พีชคณิต
มาตราฐาน ค.ป. 4.1 เข้าใจแบบรูและความสัมพันธ์
สาระที่ 5 การวิเคราะห์ข้อมูลและความน่าจะเป็น
มาตราฐาน ค.ป. 5.1 รวบรวมข้อมูลจนเองและสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวกับตนเอง
สาระที่ 6 ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์